นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมธนารักษ์ประกาศเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 หลังประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่ ปี 66-69 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% หลังถูกเลื่อนบังคับใช้ 1 ปี เพื่อลดภาระผู้ประกอบการช่วงโควิด-19 ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกเวลา เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม ยังไม่ฟื้นยังคงมีกระแสเงินสดไม่สมดุล เนื่องจากรายได้จากนักท่องเที่ยวไม่สามารถชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อที่สูงได้ ราคาพลังงานและการจ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นให้กับธนาคารคำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อต
โดยการปรับเพิ่มภาษีไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ทุกคนอาจเข้าใจว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากการเปิดใหม่ทั้งหมด แต่คาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในเดือน ก.ค.นี้ จะอยู่ที่เพียง 40% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 38% ในเดือนที่ มิ.ย. แม้จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้วก็ตาม เนื่องจากการแข่งขันยังคงเข้มข้นจากโรงแรมที่กดดันอุปทานจำนวนมาก เพื่อลดราคาห้องพัก
นางมาริสา กล่าวว่า สมาคมโรงแรมไทยเตรียมเข้าพบกระทรวงการคลังอีกครั้ง หลังจากเมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาได้เข้าพบเพื่อแจ้งความเดือดร้อนของผู้ประกอบการโรงแรม โดยขอผ่อนผันจ่ายภาษีที่ดินแบบแบ่งชำระ 10 งวด โดยไม่คิดดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่ม แต่ทางกระทรวงการคลัง แจ้งว่าภาษีที่ดินต้องชำระภายในปีงบประมาณ 65 หรือไม่เกินเดือน ก.ย.65 หรือผ่อนผันให้ชำระได้ตามกฎหมายคือไม่เกิน 3 เดือนหากไม่สามารถชำระได้จะถูกปรับ 40% ต่อเดือน
ดังนั้น โรงแรมจะต้องชำระภาษีที่ดินเต็มจำนวนในปี 65 ก่อนที่จะเห็นการจ่ายในอัตราใหม่ ที่เพิ่มขึ้นตามราคาประเมินที่ดินใหม่ในปี 66 ซึ่งรัฐบาลต้องเห็นใจโรงแรมบ้างการขึ้นรวดเดียวตามราคาประเมินแบบ 100% ถือเป็นการซ้ำเติมธุรกิจโรงแรมอย่างมาก ปัจจุบันโรงแรมไม่ได้เหลือเงินมาก แต่พยุงการจ้างงาน พยุงธุรกิจรอการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว หลายโรงแรมพนักงานยังไม่ได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนเท่ากับเมื่อครั้งก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 หรือในปี 62
“ขอให้รัฐบาลพิจารณาการเก็บภาษีแบบขั้นบันได เก็บแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ปรับเพิ่ม ปี 66 ลดหย่อน 75% จากนั้นในปี 67 ลดหย่อน 50% และปี 68 ลดหย่อน 25% ตามลำดับ ให้ผู้ประกอบการนำรายจ่าย ขยาย ต่อเติมกิจการ สามารถนำมาลดหย้อนภาษี 2 เท่าของรายจ่ายจริง และขอให้นำผลการขาดทุนไปไปหักล้างกำไรสุทธิ จาก 5 ปีเป็น 10 ปี การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโรงแรมไม่ได้เหมือนกันทุกโรงแรม เพราะต่างชาติที่เข้ามา ก็มักจะพักโรงแรมขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก ส่วนโรงแรมขนาดเล็ก โรงแรมแบรนด์ท้องถิ่น ก็จะได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการของรัฐ อาทิ เราเที่ยวด้วยกัน”
นางมาริสา กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงแรมหลายแห่งมีการกู้เงินเพื่อพยุงธุรกิจไว้ แม้จะได้รับดอกเบี้ยอัตราที่ต่ำ และมีระยะเวลาผ่อนผันการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ปี 66 ทุกโรงแรมก็หันมาชำระดอกเบี้ยและเงินต้นแล้ว เนื่องจากธนาคารเจ้าหนี้โรงแรมมองว่า โรงแรมได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศอีกครั้ง แต่มันไม่ได้ฟื้นตัวทุกโรงแรม